การโค้ชชิ่งสำหรับผู้จัดการ

Being a great manager is effortful, time-consuming, and relies on good instinct and being able to read people's needs well. Here are some tips!
การโค้ชชิ่งสำหรับผู้จัดการ

การเป็นเมเนเจอร์ที่ยอดเยี่ยมต้องใช้ทั้งความพยายาม ใช้เวลา ต้องอาศัยสัญชาตญาณที่ดี และเก่งในการอ่านความต้องการของคน การทำเรื่องบางเรื่องเป็นประจำสามารถช่วยยกระดับการจัดการคนของคุณไปอีกขั้น บทความนี้ของเราจะบอกถึง best practice (สิ่งที่ควรทำกับอย่าทำ) ที่สำคัญๆ ว่ามีอะไรบ้าง

ก็เหมือนกับที่หัวหน้าของคุณเป็นตัวอย่างให้กับคุณ ตัวของคุณเองก็กำลังเป็นแบบอย่างให้กับคนที่อาจจะเป็นหัวหน้าและผู้นำในอนาคตเช่นกัน เราขอส่งกำลังใจและชื่นชมที่คุณได้ดูแลใส่ใจลูกทีม และช่วยทำให้ที่ทำงานดีขึ้นกว่าที่เคย

Set up a 1:1 meeting • นัดหมายเพื่อคุยกับแบบตัวต่อตัว

ทำให้คะแนนด้าน Relationship with Manager ดีขึ้นได้ ด้วยการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมาย

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา คุณกับหัวหน้าของคุณได้คุยกันในเรื่องที่มีความสำคัญ?

ทำ

  • เตรียมตัว หยิบยกเรื่องหรือประเด็นเข้าไปพูดคุย (เช่น ฟีดแบ็กจาก Happily)
  • โฟกัสที่พนักงาน ไม่ใช่งานของคุณ ไม่ใช่ที่ปัญหาของคุณ ไม่ต้องเล่านู่นนี่ให้มากความ
  • จงฟัง ถามคำถามปลายเปิดที่มีคำว่า อะไร อย่างไร ทำไม และตั้งใจฟังพวกเขา

อย่าทำ

  • ลืมว่าลูกทีมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องการคนที่เชื่อมถึงกันและความเข้าใจ
  • ลืมว่าคราวที่แล้วคุยอะไรกันไว้
  • ลืมทำ สิ่งที่คุณรับปากหรือสัญญาว่าจะทำ จงทำ

Check-in • แวะทักทาย

ทำให้คะแนนด้าน Happiness ดีขึ้นได้ ด้วยการพยายามเข้าถึงคนที่ไม่ค่อยมีความสุขในช่วงนี้ รับฟังและสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา

ที่ทำงานวันนี้เป็นยังไงบ้าง?

ทำ

  • แสดงถึงความเข้าใจ ใช้โอกาสนี้แสดงออกว่าคุณมีความรู้สึกร่วมและเข้าใจถึงปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญ
  • เปิดใจฟัง หาให้ได้ว่าพวกเขาอยากให้คุณแก้ปัญหาให้ หรือแค่อยากมีคนรับฟัง (ต่างกันมากนะจ๊ะ แยกให้ดี!)
  • ลงมืออย่างทันท่วงที อย่ารอให้ปัญหาเกิดก่อนแล้วค่อยมาตามแก้ ลงมือตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้เรื่องที่มีลุกลามจนสายเกินแก้

อย่าทำ

  • คิดเอาเอง อย่าด่วนสรุปหรือคาดเดาไปเองว่ามีนั่นนู่นนี่เกิดขึ้น
  • ด่วนตัดสินใจ พยายามอย่าเอาความคิดเห็นหรือมุมมองของตัวเราเองมาใส่หรือตัดสินอะไรเร็วเกินไป
  • พยายามแก้ปัญหาส่วนตัวให้คนอื่น คนส่วนใหญ่มักมองหาใครสักคนที่จะรับฟัง ไม่ใช่หาคนเพื่อมาช่วยเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหา

Share feedback • แชร์ฟีดแบ็ก

ทำให้คะแนนด้าน Feedback ของคุณดีขึ้นได้ ด้วยการแบ่งปันฟีดแบ็กเชิงสร้างสรรค์และทำได้จริง

คุณได้รับฟีดแบ็กในที่ทำงานอย่างเพียงพอ?

ทำ

  • ลงรายละเอียดและเจาะจง เช่น การยกตัวอย่างประกอบ
  • ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ตอบโต้ หลังให้ฟีดแบ็กไปแล้ว เว้นจังหวะสักนิด เผื่อจะมีคำถามหรือคำอธิบายเพิ่มเติมจากอีกฝ่าย
  • ฟีดแบ็กในทางลบ จงบอกกันแบบเป็นส่วนตัว

อย่าทำ

  • รีรอหรือถ่วงเวลา ฟีดแบ็กจะมีประโยชน์ที่สุดเมื่อมาทันท่วงที
  • ทำให้เป็นเรื่องของตัวบุคคล อย่าวิพากษ์วิจารณ์โดยโยงเข้าที่บุคคลนั้นๆ แต่จงบอกถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ความพยายาม และผลที่เกิดขึ้น
  • ให้แต่ความเห็นของตัวเอง ใช้หลักฐานและการยกตัวอย่างดีกว่า

Send recognition • ให้การชื่นชม

ทำคะแนนด้าน Recognition ให้ดีขึ้นได้ ด้วยการแสดงให้เห็น/สื่อสารออกไปว่าคุณมองเห็นคุณค่า กล่าวยกย่องและแสดงความชื่นชมยินดี

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีคนชมเชยคุณเรื่องงานบ้างหรือไม่?

ทำ

  • เจาะจง ชัดเจน อย่ากล่าวแค่คำขอบคุณ แต่จงเน้นย้ำว่าคุณเห็นความตั้งใจ ความพยายาม และสิ่งที่พวกเขาทำทำให้คุณรู้สึกอย่างไร
  • ความพอดี คนเราอยากได้การแสดงออกหรือวิธีให้การชื่นชมที่ต่างกัน หาให้เจอว่าลูกทีมของคุณเป็นแบบไหน
  • ทำทันที เพื่อสร้างอิมแพ็กที่เปรี้ยงปังปุริเย่

อย่าทำ

  • ชื่นชมคนที่ไม่ควรชม อย่าลดทอนคุณค่าเครื่องมือในการสร้างแรงกระตุ้นที่ดีที่สุดด้วยการทำสิ่งนี้
  • ชมทุกงานแบบรวดเดียว จะชื่นชมทั้งที ทำมันให้ชัดเจนและเด่นชัดเป็นอย่างๆ ไป

Re-evaluate priorities • จัดลำดับความสำคัญของงาน

ทำคะแนนด้าน Wellness ของคุณให้ดีขึ้น ด้วยความเข้าใจว่าเรื่องอะไรที่ทำให้พนักงานเครียดที่สุดและช่วยพวกเขาจัดลำดับความสำคัญของงาน

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา คุณรู้สึกเครียดหรือตื้อจนไม่ไหวหนักแค่ไหน?

ทำ

  • เจาะลึกลงไป หาต้นตอหรือปมของปัญหาให้ได้ เพราะมันอาจช่วยนำทางให้คุณทบทวนความรู้สึกข้างในได้
  • เข้าใจสิ่งที่เป็นทำให้ทีมรู้สึกท้าทายหรือสร้างความวิตกกังวล หากเข้าขั้นวิตกกังวลแล้วล่ะก็ ไม่แปลกเลยที่จะทำงานออกมาได้ไม่ค่อยดีหรือทำงานไปเครียดไป
  • เอ่ยถาม หยิบยื่นความช่วยเหลือว่ามีอะไรที่คุณพอช่วยได้หรือเปล่า

อย่าทำ

  • บังคับกดดัน มีโอกาสที่ลูกทีมจะไม่โอเคกับภาษาท่าทีในลักษณะนี้ โดยเฉพาะช่วงที่เครียดมากๆ
  • โฟกัสแต่ผลงานว่างานออกได้มากแค่ไหน แต่จงเข้าใจว่าอะไรทำให้ผลงานออกได้

Set up a team check-in • หาเวลาเพื่อเข้าไปดูแล

ทำให้คะแนนทีมของคุณสูงขึ้นได้ ด้วยการแวะทักทาย ดูแลลูกทีม และหัวหน้าของคุณ เพื่อรับฟังว่าแต่ละคนกำลังพบเจอกับอะไร และหยิบยื่นความช่วยเหลือ

ทำ

  • อย่าลืมหัวหน้าทีม การหลีกเลี่ยงพวกเขาเป็นการละเมิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
  • สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ใช้เวลา แต่สิ่งนี้จะเสริมให้มีความจริงใจและทำให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่า
  • เสนอตัวช่วยเหลือ จงหยิบยื่นมันออกไปเมื่อคุณสามารถทำได้

อย่าทำ

  • โฟกัสที่ตัวบุคคล อย่าไปหาเลยว่า'ใคร?' สิ่งที่มีประโยชน์กว่าคือการโฟกัสว่า 'ทำไม?' ต่างหาก
  • ลืมติดตามว่าเป็นยังไง หลังอาสาช่วยอะไรแล้ว ให้แน่ใจว่าคุณลงมือทำมัน ไม่งั้นแล้วในอนาคตคงจะไม่มีใครอยากได้มันจากคุณอีก
  • ละเลยปัญหา เพราะปัญหาของทีมส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวของมันเอง

Subscribe to Smiles at Work | The Official Happily.ai Blog newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!