[HR Notes] เบื้องหลัง กว่าจะมาเป็น Happily.ai
คัดลอกมาจากส่วนหนึ่งของบทความที่ถูกตีพิมพ์บนเว็บไซต์ HR Notes Thailand โดยสามารถอ่านบทความต้นฉบับได้จาก ที่นี่
คุณ ทรีฟ แจเฟอรี่ ผู้ริเริ่มแอปพลิเคชั่น Happily.ai แอปที่ช่วยสร้าง Engagement ระหว่างพนักงานกับองค์กร
จบการศึกษาทางด้าน Materials Science and Engineering มีความสนใจใน People Analytics แล้วศึกษาต่อในด้านนี้ที่ MIT และได้ฝึกงานที่ Google ในระหว่างนั้น
จากประสบการณ์มากมายที่ได้สั่งสมมาตลอดหลายปี ทำให้รับรู้ถึงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลภายในองค์กร และความสำคัญของคนภายในองค์กรเป็นอย่างดี หลังจากจบการศึกษาจึงได้เริ่มทำแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการสื่อสารระหว่างบุคคลภายในองค์กรที่ชื่อว่า ‘Happily.ai’
เราจะมาพูดคุยกับคุณ ทรีฟ ถึงวิธีการสร้าง Engagement ระหว่างพนักงาน และวิธีที่จะทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีความสุข
ที่ทำงานที่ดีที่สุดคือที่ที่สร้าง’คน’ขึ้นมาได้
คุณทรีฟกล่าวว่า ระหว่างเรียนก็ได้มีโอกาสไปฝึกงานที่ Google 6 เดือน อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า ‘gTech’ โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทุ่มเทเพื่อการพัฒนาและจัดการทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของ Google
การไปทำงานที่นั่นยังทำให้เราเข้าใจถึงสถานที่ทำงานที่ใครๆ ก็อยากเข้าไปทำงานว่าเป็นอย่างไร เพราะเขามีการจัดการเรื่องคนที่ดีมาก ทำให้รู้สึกว่าปัจจัยสำคัญของที่ทำงานที่ดีนั้นคือ ‘คน’ นั่นเอง
จบ MIT เริ่มทำธุรกิจ Startup เริ่มเห็นความสำคัญของ Engagement
หลังจากจบการศึกษาจาก MIT ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ ความสุขของพนักงาน (Employee Happiness)และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับ People Analytics ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับการสร้าง Engagement กับพนักงานมากขึ้น
ตอนที่ผมทำธุรกิจ Startup อย่างอื่นอยู่ ก็รู้สึกได้ถึงปัญหาที่หลายๆธุรกิจเจอ นั่นก็คือปัญหาเกี่ยวกับ คน ปัญหานี้มีความซับซ้อนมาก เลยเป็นไอเดียให้ผมใช้ Technology เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องคน
สาเหตุที่พวกเขาเจอกับปัญหาเกี่ยวกับ ‘คน’ เพราะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ ‘คน’ นั้นค่อนข้างเป็นนามธรรม ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมรู้สึกว่ามีโอกาสที่จะแก้ปัญหานี้ได้ด้วยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์
ความสัมพันธ์ของคนในองค์กร ปัญหาที่ทุกๆประเทศมีเหมือนกัน
เราสังเกตว่าการสื่อสารภายในองค์กรยังมีปัญหาอยู่ ทุกคนอาจจะใช้โซเชียลมีเดียแต่ก็ยังเจอปัญหาในการสื่อสารอยู่ดี
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทยอย่างเดียวที่ไหนๆ ก็มีปัญหาแบบเดียวกัน มีอัตราการลาออกสูง คนไม่ค่อยพอใจกับที่ทำงาน หลายครั้งที่เราพบว่า พนักงานไม่ได้ลาออกจากบริษัท แต่ลาออกจากหัวหน้าของตัวเอง รู้สึกหาเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการทำงานไม่เจอและไม่มีความสุขเพราะไม่มีความเป็นทีม โดยเฉพาะในเด็กยุคใหม่ๆ เขาเริ่มให้ความสำคัญกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการทำงานมากพอๆกับเรื่องเงิน
เราเห็นว่านี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าเมื่อเขาไม่ได้ทำงานเพราะว่าเงินอย่างเดียวแต่มีสิ่งอื่นเข้ามาด้วย เลยทำให้การจัดการคนมีความซับซ้อนมากขึ้น เลยเป็นไอเดียให้สร้าง Technology Startup ขึ้นมา เพื่อที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนภายในองค์กรได้
ติดตามตอนต่อไปทาง Happily.ai Blog
หรือ ศึกษาเกี่ยวกับ Happily.ai เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเรา: