สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid ให้สำเร็จได้อย่างไร

ผู้นำจำเป็นต้องทำให้พนักงานมีโอกาสเข้าถึงการสื่อสาร เครื่องมือในการสื่อสาร และเอกสารข้อมูลสำคัญของบริษัทอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งตั้งกฎเกณฑ์การมีส่วนร่วมของพนักงานอย่างชัดเจน สิ่งนี้จะทำให้คุณสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด
สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid ให้สำเร็จได้อย่างไร


แม้ว่าพนักงานส่วนใหญ่จะต้องกลับไปทำงานที่บริษัทในขณะที่เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ผู้บริหารหลาย ๆ คนได้ระบุไว้ในการสำรวจของ McKinsey ว่าวัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid จะยังคงอยู่ การระบาดครั้งนี้ทำให้องค์กรสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่ขัดขวางการทำงานแบบระยะไกล (Remote work)ในอดีต ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในสถานที่ทำงานสำหรับคนส่วนใหญ่ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับการทำงานแบบระยะไกล ทำให้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลาย บางคนแสดงความมั่นใจว่าการทำงานแบบระยะไกลสามารถดำเนินต่อไปได้ ในขณะที่บางคนเห็นข้อดีแค่บางประการของการทำงานระยะไกล

คำถามที่ว่า การทำงานแบบระยะไกลเป็นผลดีต่อผลผลิตหรือไม่ จนถึงตอนนี้ยังมีความชัดเจนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังคงมีข้อโต้แย้งอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบด้านประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน จากแบบสำรวจผู้บริโภคของ McKinsey ในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 พบว่าพนักงาน 41% ตอบว่าพวกเขาทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานในออฟฟิศ เนื่องจากพนักงานได้รับประสบการณ์การทำงานแบบระยะไกลในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ ความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้น และนายจ้างจำนวนมากก็เห็นเช่นเดียวกันว่าประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานนั้นดีขึ้นจากการทำงานจากระยะไกล แต่อุปสรรคอย่างหนึ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานแบบระยะไกลคือการเชื่อมต่อ ในหลายพื้นที่ของประเทศที่กำลังพัฒนานั้นมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อที่ไม่ค่อยดีนักหรือแทบจะไม่มีเลย ดังนั้นภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องร่วมกันลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล

ในขณะที่พนักงานจำนวนมากมีความคุ้นเคยกับความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของการทำงานจากระยะไกล และมีความต้องการที่จะทำแบบนี้ต่อไป หลาย ๆ บริษัทก็กำลังผลักดันให้พนักงานของพวกเขากลับมาทำงานที่ออฟฟิศ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากที่สุด หลาย ๆ องค์กรจึงนำการผสมผสานระหว่างการให้พนักงานกลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานแบบระยะไกลมาใช้ แต่การทำงานแบบผสมผสานหรือ Hybrid นี้ ไม่ใด้เป็นแค่เพียงการกำหนดอย่างง่าย ๆ ว่าพนักงานควรเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศหรือทำงานจากที่บ้านวันไหนบ้าง วัฒนธรรมการทำงานแบบ Hyrbid จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อบริษัทมีการปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนเหมือนพวกเขากำลังทำงานจากระยะไกล ซึ่งนั่นหมายความว่าพนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูล ผู้คน และเครื่องมืออย่างเดียวกันได้ และมีโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างเท่าเทียมกัน

5 วิธีสำหรับผู้นำในการสร้างวัฒนธรรมแบบ Hybrid

จากบทความของ James Stanier, Michael Li, และ Jesse Anderson ใน Havard Business Review ได้นำเสนอ 5 วิธีสำหรับผู้นำในการสร้างวัฒนธรรมแบบ Hybrid ได้อย่างประสบความสำเร็จ ดังนี้

Hybrid Work Tips infographic

1. ใช้การสื่อสารแบบ Asynchronous หรือ การสื่อสารแบบไม่เรียลไทม์

เมื่อพนักงานทำงานจากหลาย ๆ ที่ ผู้นำจะต้องมั่นใจว่าพนักงานทุกคนมีโอกาสและมีส่วนร่วมในการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งโดยทั่วไปสามารถทำได้โดยเปลี่ยนจากการสื่อสารแบบเรียลไทม์ไปเป็นการสื่อสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือที่สามารถบันทึกไว้ เช่น แทนที่การประชุมในแต่ละวันด้วยการอัปเดตผ่านการพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ในห้องแชท หรือใช้เอกสารที่อำนวยความสะดวกให้กับพนักงานในการแบ่งปันความคิดเห็น หากมีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารแบบเรียลไทม์ คุณสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบันทึกข้อมูลการสนทนานั้น ๆ เช่น การบันทึกการประชุมที่จัดขึ้นใน Zoom และ Google Meets หรือคุณอาจใช้การถอดเสียงโดยอัตโนมัติจากวิดีโอคอล

2. กำหนดขอบเขตการสื่อสารให้ชัดเจน

ผู้นำต้องตั้งกฎเกณฑ์การมีส่วนร่วมของพนักงานในการเข้าใช้งานในทุก ๆ แพลตฟอร์มการสื่อสาร ทั้งทางอีเมล ข้อความแชท และวิดีโอคอล โดยให้ระดับความสำคัญและความเร่งด่วนที่แตกต่างกันไป คุณต้องกำหนดความคาดหวังในการใช้แต่ละแพลตฟอร์มอย่างชัดเจน เช่น จะเป็นอะไรไหมถ้าพนักงานจะไม่ตอบข้อความในแชทจนกว่าจะถึงวันถัดไป? แล้วในอีเมลล่ะ? พนักงานทุกคนต้องย้อนดูบันทึกการประชุมที่พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมได้หรือไม่? กฎเหล่านี้สามารถลดความวิตกกังวลและความกลัวของพนักงานที่จะพลาดโอกาสในการสื่อสารได้ และมากไปกว่านั้นคุณต้องแนะนำให้พนักงานของคุณบันทึกเวลาการทำงานรวมถึงเวลาการลาพักร้อนอย่างชัดเจนในปฏิทินของพวกเขาในแบบที่ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้ เพื่อที่จะได้ไม่มีการขัดจังหวะหรือรบกวนเวลาของกันและกัน

3. จัดเก็บเอกสารข้อมูลสำคัญอย่างถาวรและเข้าถึงได้

คุณต้องจัดเก็บเอกสารสำหรับข้อมูลสำคัญอย่างถาวรและให้ค้นหาได้สำหรับทั่วทั้งบริษัท เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับพนักงาน ทีม และแผนกต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ในทีมซอฟต์แวร์สามารถเขียนการออกแบบฟีเจอร์ใหม่และรายการการเปลี่ยนแปลงลงในระบบได้ และเอกสารการออกแบบเหล่านี้ถูกเก็บไว้เพื่อให้ทีมงานวิศวกรในอนาคตเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่าทำไมการตัดสินใจเหล่านั้นจึงเกิดขึ้น สิ่งนี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์สำหรับพนักงานใหม่ที่ต้องการค้นหาที่มาที่ไปของงานที่พวกเขากำลังทำอยู่ นอกจากนี้ การส่งเสริมวัฒนธรรมในการเขียนข้อเสนอและการออกแบบอย่างเปิดเผยโดยที่ผู้อื่นสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้นั้น จะช่วยให้พนักงานมีความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการสนับสนุนทิศทางการทำงานโดยรวมของบริษัท และยังช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจและความรู้สึกความเป็นเจ้าของงานให้กับพนักงานอีกด้วย

4. สื่อสารอย่างทั่วถึง

ในที่ทำงาน แต่ละวันจะเต็มไปด้วยการสนทนาแบบตัวต่อตัวเพื่อเผยแพร่และแบ่งปันข้อมูล นี่อาจเป็นวิธีการสื่อสารที่ใช้การได้ในที่ทำงานขนาดเล็ก แต่เมื่อพนักงานไม่ได้อยู่รวมกันในที่ทำงาน ผู้นำจำเป็นต้องพัฒนาวัฒนธรรมการสื่อสารผ่านการเขียนหรือบันทึกข้อความ คุณสามารถเริ่มด้วยการเขียน Newsletter เป็นประจำถึงพนักงานของคุณ หรือบันทึกข้อความประจำสัปดาห์เพื่อส่งให้ทีมทุก ๆ ต้นสัปดาห์ มากไปกว่านั้น คุณต้องส่งเสริมให้ทีมของคุณแบ่งปันความสำเร็จของพวกเขาโดยเริ่มด้วยการสรุปสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ให้กับสมาชิกในทีม และต่อไปอาจแบ่งปันข้อมูลนั้นกับทีมอื่น ๆ ในแผนกของพวกเขา วัฒนธรรมการแบ่งปันนี้มักจะส่งเสริมให้มีการแบ่งปันกันต่อไป

5. ให้สิทธิ์ในการใช้เครื่องมือกับพนักงานทุกคน

เพื่อให้การทำงานระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณจำเป็นต้องให้พนักงานทุกคนใช้และมีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือที่เหมือนกัน เช่นการใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งผู้เข้าร่วมหลายคนสามารถแก้ไขและแสดงความคิดเห็นได้ เครื่องมือที่ว่านี้ยังสามารถมาในรูปแบบของสิ่งที่พนักงานสามารถเข้าถึงได้จากที่บ้านของพวกเขา เช่นการเสนอค่าตอบแทนในการทำงานจากที่บ้านให้กับพนักงานเพื่อปรับปรุงพื้นที่ในการทำงานที่บ้าน หากการทำงานแบบ Hybrid เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับพนักงานของคุณ บริษัทก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการอำนวยความสะดวกให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและประสบความสำเร็จได้จากทุกที่

ในขณะที่หลาย ๆ องค์กรเริ่มให้พนักงานกลับไปทำงานที่บริษัท วัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid ก็จะยังคงอยู่ต่อไปและอาจถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายขึ้น หากผู้นำหรือผู้จัดการไม่สามารถส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานแบบ Hybrid ได้เป็นอย่างดี พนักงานของคุณจะทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งองค์กร ผู้นำ และพนักงาน ผู้นำจำเป็นต้องทำให้พนักงานมีโอกาสเข้าถึงการสื่อสาร เครื่องมือในการสื่อสาร และเอกสารข้อมูลสำคัญของบริษัทอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งตั้งกฎเกณฑ์การมีส่วนร่วมของพนักงานอย่างชัดเจน สิ่งนี้จะทำให้คุณสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Hybrid ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด

happily.ai

เอกสารอ้างอิง

[1] https://hbr.org/2022/03/what-great-hybrid-cultures-do-differently

[2] https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-work/whats-next-for-remote-work-an-analysis-of-2000-tasks-800-jobs-and-nine-countries

[3] https://www.conference-board.org/pdfdownload.cfm?masterProductID=20874

[4] https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-work/what-800-executives-envision-for-the-postpandemic-workforce

[5] Photo by Tina Witherspoon on Unsplash

Subscribe to Smiles at Work | The Official Happily.ai Blog newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!