เคล็ดลับที่ทำให้การประชุม One-on-Ones มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับ 7 ประการที่จะทำให้การประชุม One-on-Ones กับลูกทีมของคุณมีประสิทธิภาพ โดยใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ต้องการจากการประชุมทั้งต่อลูกทีมและหัวหน้าทีม
เคล็ดลับที่ทำให้การประชุม One-on-Ones มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประชุมแบบตัวต่อตัว หรือ One-on-One

ในสถานการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่จากการระบาดของโควิด-19 การทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่การทำงานที่บ้าน และในปัจจุบันที่มีแนวโน้มมาเป็นการทำงานแบบผสมผสาน คือทำทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ทำให้การประชุมออนไลน์เป็นที่นิยมพุ่งสูงขึ้น เห็นได้จากการก้าวกระโดดของเครื่องมือการประชุมออนไลน์อย่าง Zoom ที่เติบโตเร็วแบบก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่าน โดยมีการเปิดเผยยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 370% ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 คือมียอดขายสูงถึง 882.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นคนทำงานในปัจจุบันได้ใช้เวลาไปกับการประชุมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมที่ต้องดูแลลูกทีม โดยการดูแลสมาชิกภายในทีมนี้รวมไปถึงการประชุมแบบตัวต่อตัวหรือ One-on-Ones อีกด้วย ซึ่งการใช้เวลาในการประชุมนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของทีมด้วย และด้วยสถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็มีตารางประชุมกันแน่นขึ้น โดยเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการประชุมอยู่ที่ 21.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่เวลาในการประชุมช่วงก่อนหน้าเกิดการแพร่ระบาดใช้เพียงแค่ 14.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ Reclaim.ai ยังพบอีกว่าการประชุม One-on-Ones ช่วยทำให้งานและองค์กรขับเคลื่อนได้ในช่วงการระบาด โดยมีการประชุมเพิ่มขึ้นมาใหม่ถึง 79.6%

ในฐานะของผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมเรามีวิธีที่จะทำให้การประชุม One-on-Ones มีประสิทธิภาพ โดยใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์จากการประชุมทั้งต่อลูกทีมและหัวหน้าทีม

เคล็ดลับสำหรับการประชุม One-on-Ones ที่มีประสิทธิภาพ

จากบทความของ HBR ผู้เขียน Rebecca Knight ได้แนะนำเคล็ดลับที่ทำให้การประชุม One-on-Ones มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแก่ผู้จัดการ ผ่านมุมมองและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญสองท่านได้แก่ Elizabeth Grace Saunders, ผู้แต่งหนังสือ How to Invest Your Time Like Money และผู้ก่อตั้ง Real Life E Time Coaching & Training และ Margaret Moore, CEO ของ Wellcoaches Corporation และผู้ร่วมแต่งหนังสือเรื่อง Organize Your Emotions, Optimize Your Life

โดย Saunders ได้กล่าวว่า การประชุม One-on-Ones เป็นเครื่องมือที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งของผู้จัดการ โดยในการประชุมนี้ผู้จัดการหรือหัวหน้ามีโอกาสถามคำถามเชิงกลยุทธ์กับลูกทีม เช่น พวกเราทำงานโดยมีการโฟกัสถูกจุดใช่ไหม และเมื่อพิจารณาในเรื่องความสัมพันธ์ การประชุมแบบตัวต่อตัวนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้ลูกทีมเห็นว่าพวกเขามีคุณค่าและผู้จัดการอย่างคุณให้ความสำคัญกับพวกเขา และในส่วนของ Moore กล่าวว่า เป้าหมายของการประชุม One-on-Ones คือการที่ผู้จัดการแสดงความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกทีมพัฒนาและเติบโตในหน้าที่การงาน แต่ผู้จัดการก็ยังต้องคิดถึงหลักการขององค์กรอีกด้วย และคิดว่าคุณจะทำงานร่วมกับลูกทีมคนนี้ให้งานสำเร็จลุล่วงได้ดีที่สุดอย่างไร

โดยมีทั้งหมด 7 เคล็ดลับสำหรับการประชุม One-on-Ones ที่มีประสิทธิภาพ ทำได้โดย

  1. จัดตารางเวลาที่แน่นอนในการประชุม One-on-Ones โดยความถี่ของการประชุมนี้ขึ้นกับขนาดของทีมว่ามีขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือคนในทีมมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด Saunders กล่าวว่า ไม่สำคัญว่าการประชุมจะมีบ่อยแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญคือการประชุมนี้ต้องถูกกำหนดลงในปฏิทินของผู้จัดการและเป็นกิจกรรมที่มีการทำซ้ำ การกำหนดตารางเวลาที่แน่นอนนี้ช่วยให้ลูกทีมทราบว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรและลดการโต้แย้งเรื่องการรบกวนเวลาขณะทำงาน และอีกสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ อย่ายกเลิกการประชุมแบบกระชั้นชิด เพราะแทนที่ลูกทีมของคุณจะรู้สึกถึงการให้ความสำคัญของหัวหน้าทีมในการจัดประชุม One-on-Ones แต่อาจทำให้ลูกทีมรู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีความสำคัญจริงๆ
  2. เตรียมตัวเรื่องที่จะพูดคุยกันในการประชุม One-on-Ones ในการประชุมโดยทั่วไปต้องมีการเตรียมวาระการประชุม แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ในการประชุม One-on-Ones ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการขนาดนี้ ผู้จัดการและลูกทีมเพียงแค่จดลิสต์รายการที่ต้องการจะคุยกันในมีตติ้งและกำหนดเวลาคร่าวๆ ในแต่ละหัวข้อ ขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญของหัวข้อนั้นๆ สิ่งนี้จะช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการประชุมนี้สามารถยืดหยุ่นได้ โดยที่ Saunders กล่าวว่า การประชุมที่ดีที่สุดคือการที่ผู้ร่วมประชุมอยู่ในโหมดร่วมกันสร้างสรรค์ นั่นก็คือทุกคนสามารถออกความคิดเห็นเกี่ยวกับการประชุมและหัวข้อต่างๆ ร่วมกันได้
  3. ใส่ใจและให้เวลากับการพูดคุยกันในการประชุม One-on-Ones โดย Moore ได้กล่าวว่า อย่าคิดว่าการประชุม One-on-Ones ก็เป็นแค่อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในลิสต์รายการที่ต้องทำ แต่ให้พิจารณาว่าการประชุมนี้เป็นช่วงเวลาอันล้ำค่าของการ connect กับลูกทีม หรือให้คิดว่า คุณในฐานะผู้จัดการอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนคนหนึ่งซึ่งก็คือลูกทีมของคุณนั่นเอง และผู้จัดการควรให้ความสำคัญและใส่ใจกับการประชุม โดยปิดเครื่องมือการสื่อสารรวมถึงเสียงจากคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการรบกวนระหว่างการประชุม
  4. เริ่มต้นจากสิ่งดีๆ หรือเรื่องราวเชิงบวก Saunders ยังแนะนำอีกว่าในการเริ่มต้นการประชุมควรเริ่มด้วยการแชร์เรื่องราวดีๆ เช่นการกล่าวชื่นชมและขอบคุณสำหรับความตั้งใจในการทำงาน โดยการพูดคุยกันด้วยเรื่องดีๆ เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มการประชุม One-on-Ones เพราะสิ่งนี้ช่วยสร้างพลังงานเชิงบวกให้กับผู้ร่วมประชุม
  5. แก้ไขปัญหาร่วมกัน การประชุม One-on-Ones นี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะตอบปัญหาเชิงกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาร่วมกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้จัดการจะต้องสร้างสมดุลระหว่างการถามคำถามกับการรับฟังสิ่งที่เพื่อนร่วมงานหรือลูกทีมพูด และจดจำไว้เสมอว่า คุณอยู่ตรงนี้เพื่อเรียนรู้ ผู้จัดการบางคนขอให้ลูกทีมสร้างลิสต์ของความท้าทายที่เจอพร้อมทั้งวิธีการแก้ไขมาให้ดูก่อนล่วงหน้า สิ่งนี้ทำให้ลูกทีมได้ผ่านกระบวนการแก้ไขปัญหามาก่อนล่วงหน้า และหลังจากนั้นผู้จัดการสามารถให้ฟีดแบ็กเชิงสร้างสรรค์เพิ่มเติมได้
  6. ถามคำถามเกี่ยวกับความก้าวหน้าในสายงาน แม้ว่าการพูดคุยกันในเรื่องกลยุทธ์จะมีความสำคัญแต่เรื่องส่วนบุคคลของพนักงานก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน การประชุมนี้ยังอาจเป็นโอกาสที่ช่วยให้สมาชิกในทีมมีความคิดที่รอบคอบขึ้นเกี่ยวกับอาชีพและชีวิตของพวกเขา ผู้จัดการบางคนพูดถึงเรื่องความก้าวหน้าในสายงานในทุกการประชุม และถ้าคุณมีแผนจะพูดถึงเรื่องความก้าวหน้าในสายงานกับลูกทีม คุณต้องรอบคอบเพราะเรื่องนี้ต้องการการไตร่ตรองและคิดทบทวน โดย Moore กล่าวว่า ให้เวลาและพื้นที่แก่ลูกทีมของคุณได้คิดว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ก่อนที่คุณจะพูดประเด็นเกี่ยวกับความก้าวหน้าในสายอาชีพขึ้นมา Saunders กล่าวเสริมอีกว่า เมื่อมีการพบกันแบบ face-to-face นี้ ผู้จัดการควรถามคำถามปลายเปิดโดยตรงต่อเรื่องเป้าหมายของลูกทีม สิ่งนี้ทำให้ลูกทีมมีแรงบันดาลใจและทำงานในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายของทีมและองค์กร
  7. พูดชื่นชมและขอบคุณกัน การจบการประชุมก็จะคล้ายกันกับการเริ่มต้นการประชุม คือทำให้เป็นบรรยากาศเชิงบวก Moore แนะนำว่า ควรปิดการประชุมด้วยการขอบคุณกัน โดยไม่จำเป็นต้องพูดยืดยาว แค่เพียงหยุดสักครู่ก่อนพูดว่า “ขอบคุณ” แค่เพียงห้าวินาที และ Saunders เห็นด้วยว่า การเน้นย้ำด้วยคำดีๆ นั้นมีความหมายต่อลูกทีม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริงๆ หรือเพียงแค่คุณสามารถพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกทีมทำได้ดี อย่างเช่น ฉันรู้สึกซาบซึ้งและเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณทำ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างมาก
7 เคล็ดลับการประชุม One-on-Ones ให้มีประสิทธิภาพ

ข้อปฏิบัติที่ควรจดจำ

ควรทำ

  • เริ่มการประชุมด้วยการแชร์เรื่องราวดีๆ สิ่งนี้ช่วยสร้างพลังงานเชิงบวกได้
  • แจ้งลูกทีมของคุณล่วงหน้าถ้าคุณวางแผนที่จะพูดถึงเรื่องความก้าวหน้าในสายอาชีพ — บทสนทนาเหล่านี้ต้องการการไตร่ตรองและคิดทบทวน
  • แสดงความสนใจ โดยรับฟังความกังวลของลูกทีมและให้ฟีดแบ็กและแนวคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะแก้ปัญหา

ไม่ควรทำ

  • ยกเลิกการประชุม แสดงให้ลูกทีมของคุณเห็นว่าพวกเขามีความสำคัญโดยการเข้าประชุมให้ตรงเวลา
  • เข้มงวดจนเกินไป แม้ว่าควรมีวาระการประชุม แต่ก็ควรมีความยืดหยุ่นด้วย
  • ลืมที่จะพูดคำว่า “ขอบคุณ” การแสดงให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าคุณให้ความสำคัญแก่พวกเขาเป็นสิ่งสำคัญ

การประชุม One-on-Ones เป็นเครื่องมือทีสำคัญมากอย่างหนึ่งของผู้จัดการ ที่ทำให้ทีมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการทำงานที่ไม่ได้เจอกันในที่ทำงานตลอดเวลา ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และสุดท้ายทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การทำให้ทีมมีการทำงานที่ดีขึ้น ส่งผลต่อการทำงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร และองค์กรสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้

เอกสารอ้างอิง

[1] https://www.bbc.com/news/business-56247489

[2] https://www.protocol.com/workplace/one-on-one-meetings

[3] https://hbr.org/2016/08/how-to-make-your-one-on-ones-with-employees-more-productive

Subscribe to Smiles at Work | The Official Happily.ai Blog newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!