หลายบทความได้กล่าวถึงเรื่องความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งที่มีการแชร์ค่านิยมที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจขององค์กร และแต่ละองค์กรก็มีค่านิยมเฉพาะของตนเอง ในปัจจุบันนี้พนักงานมีความคาดหวังค่อนข้างสูงเกี่ยวกับองค์กรที่ตนเองเลือกที่จะทำงานด้วย และส่วนที่ช่วยในการตัดสินใจเป็นเรื่องที่มากกว่าเรื่องรายได้หรือค่าจ้าง โดยผลการสำรวจจาก Linkedin ในปี 2018 พบว่า ผู้คนยอมอดทนกับการได้ค่าจ้างที่ต่ำกว่าถึง 65% และ 26% ยอมลาออกจากงานมากกว่าการที่จะอดทนกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีในที่ทำงาน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่า 47% ของพนักงานใส่ใจว่าองค์กรส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้พนักงานสามารถเป็นตัวของตัวเองได้
ในบรรดาผู้นำองค์กรหรือ CEOs ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าวัฒนธรรมองค์กรส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กรและเชื่อว่าวัฒนธรรมที่ไม่แข็งแกร่งนั้นนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามพนักงานบางส่วนยังคงเห็นว่าผู้นำยังไม่ได้ให้ความจริงจังกับการพัฒนาปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง และความไม่ตรงกันของความคิดเห็นของทั้งผู้นำและพนักงานนี้อาจนำไปสู่ผลกระทบทางธุรกิจได้ เช่น การลาออกโดยสมัครใจที่อาจทำให้องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึงสองเท่าของเงินเดือนรายปีของพนักงาน โดยสิ่งหนึ่งที่ผู้นำสามารถแสดงให้พนักงานเห็นว่าพวกเขากำลังดำเนินการคือการมอบอำนาจการตัดสินใจบางส่วนที่จะส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมกลับคืนสู่มือของพนักงาน ตัวอย่างเช่น อนุญาติให้พนักงานได้พูดหรือแสดงความคิดเห็นเมื่อพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการบางอย่างขององค์กร หรือให้พนักงานได้ทำโครงการใหม่ที่พวกเขาอยากจะทำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยในการสร้างวัฒนธรรมของการมอบหมายอำนาจให้พนักงานได้
ถึงแม้ว่าแต่ละองค์กรจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่มีค่านิยมที่แตกต่างกัน แต่พื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตของวัฒนธรรมองค์กรจะเหมือน ๆ กันนั่นก็คือขอบเขตที่พนักงานได้รับอำนาจให้มีส่วนร่วมในการทำงาน, ความรู้สึกถึงการมีคุณค่า, และการรับฟังเสียงของพนักงาน โดยที่ผู้นำองค์กรสามารถเข้ามามีส่วนในการสร้างพื้นฐานที่สำคัญนี้ได้
วิธีการสร้างวัฒนธรรมของการมอบหมายอำนาจให้พนักงาน
จากบทความของ Natalie Baumgartner ใน Havard Business Review ได้นำเสนอวิธีการที่ผู้นำสร้างวัฒนธรรมของการมอบหมายอำนาจให้พนักงาน หรือ Empowerment Culture ได้ โดยรายงานจากบริษัท Achievers และสถาบันแรงงานแนะนำวิธีที่องค์กรสามารถใช้ปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงานและสามารถช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งได้ดังนี้คือ
- ปรับปรุงความเหมาะสมของหน้าที่หรือบทบาทการทำงาน
ผู้นำและองค์กรควรสนับสนุนให้พนักงานโฟกัสกับงานที่พวกเขาชอบและอยากทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานให้คุณค่ามากที่สุด เช่นถ้าพนักงานรู้สึกสนุกกับการพูดคุยกับลูกค้า การเพิ่มงานในส่วนที่มีการพบปะกับผู้คนให้กับพนักงานคนนี้สามารถทำให้เขารู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมกับการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนนี้องค์กรสามารถขอฟีดแบ็กจากพนักงานเพื่อทำการปรับบทบาทของพนักงานในองค์กรให้เหมาะสมได้ตามความสนใจและความถนัดของพนักงานแต่ละคนได้ - ช่วยสร้างการเชื่อมต่อคนในองค์กร
เนื่องจากประสบการณ์การทำงานของพนักงานส่งผลมาจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นวันต่อวัน และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญต่อการเปิดโอกาสให้พนักงานสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งภายในที่ทำงาน โดยผู้นำสามารถสนับสนุนการเชื่อมต่อของพนักงานผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฉลองความสำเร็จ การสร้างพื้นที่สำหรับพบปะพูดคุยกันของพนักงานในออฟฟิศ กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทีม เป็นต้น - ส่งเสริมการชื่นชมขอบคุณและให้ฟีดแบ็กในองค์กร
ผู้นำสามารถส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการชื่นชมขอบคุณกันและวัฒนธรรมการให้และรับฟีดแบ็กในทุกระดับขององค์กร ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในทำให้พนักงานรู้สึกถึงความมีคุณค่าและการได้รับการรับฟังจากองค์กร และจากการศึกษาข้อมูลของ Happily.ai เราพบกว่าการชื่นชมขอบคุณกันในที่ทำงานส่งผลต่อความสุขของพนักงาน และการให้และรับฟีดแบ็กส่งเสริมการสร้างทัศนคติการเติบโตของพนักงาน - เชื่อมโยงบทบาทหน้าที่กับเป้าหมาย
พนักงานรู้หรือไม่ว่าการมีส่วนร่วมต่อองค์กรของพวกเขานั้นมีความหมาย? การรู้ถึงสิ่งที่ทำว่ามีความหมายหรือไม่นั้น ก็คือการที่พนักงานรู้ว่างานที่พวกเขากำลังทำนั้นมีส่วนช่วยให้องค์กรไปถึงเป้าหมาย ดังนั้นผู้นำและองค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างวัฒนธรรมที่ช่วยเน้นย้ำเรื่องบทบาทที่พนักงานแต่ละคนมีในองค์กร โดยส่งเสริมให้พนักงานตรวจสอบหรือพิจารณาว่าบทบาทของพวกเขาเชื่อมโยงกับเป้าหมายขององค์กรอย่างไร และสิ่งนี้เป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่ต้องทำความเชื่อมโยงนี้ให้ชัดเจน
สำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการมอบอำนาจให้พนักงานและการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการทำงาน องค์กรต้องตรวจสอบวัฒนธรรมองค์กรอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าวัฒนธรรมองค์กรของตนเองนั้นสามารถดึงดูดหรือรักษาพนักงานที่เป็นกลุ่ม Talent ที่ขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรหรือไม่ และผู้นำเองต้องคิดไตร่ตรองอย่างตรงไปตรงมาถึงขอบเขตของการรับฟังพนักงาน การขับเคลื่อนค่านิยมทางวัฒนธรรม และการชื่นชมยอมรับในการทำงานของพนักงาน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้สำคัญมากต่อการส่งเสริมการมอบอำนาจการทำงานให้กับพนักงานที่มีความหลากหลายในองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งในรากฐานที่สำคัญในการมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
เอกสารอ้างอิง
[1] https://hbr.org/2020/04/build-a-culture-that-aligns-with-peoples-values