สิ่งสำคัญที่ดึงดูดและรักษาคนเก่งและมีความสามารถสูงได้คือโปรไฟล์และภาพลักษณ์ขององค์กร เมื่อพนักงานมีความสุขและพึงพอใจกับงานที่ทำ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะสนับสนุนและภักดีต่อองค์กร พวกเขาจะแนะนำองค์กรของตนว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่น่าทำงานด้วย คำบอกเล่าปากต่อปากเช่นนี้สำคัญต่อการสร้างชื่อเสียงที่ดีแก่องค์กร ซึ่งมีผลอย่างมากกว่าการจ้างงานด้วย
ผลกระทบของพฤติกรรม Toxic ต่อความพึงพอใจของพนักงาน
จากงานศึกษาล่าสุด เราพบว่า พฤติกรรม Toxic ในที่ทำงานทำร้ายสุขภาวะ (Well-being) ของพนักงาน จึงทำให้เราอยากศึกษาว่า พฤติกรรม Toxic ส่งผลอย่างไรต่อมุมมองของพนักงานที่มีต่อองค์กร งานชิ้นนี้จึงใช้ eNPS (employee Net Promoter Score) หรือดัชนีชี้วัดความภักดีที่ใช้วัดความพึงพอใจของพนักงานที่มีต่อองค์กร โดยเก็บข้อมูลจากคำถามที่ว่า “จากระดับ 0 ถึง 10 มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ที่คุณจะแนะนำบริษัทของเรา ให้บุคคลภายนอกมาทำงาน?”
คะแนน eNPS จะช่วยบอกความแตกต่างระหว่างสัดส่วนของพนักงานที่เป็น Promoter กับ Detractor ในองค์กร โดยที่ Promoter หรือ ผู้สนับสนุน หมายถึง พนักงานที่รู้สึกดีกับองค์กรและแนะนำองค์กรให้แก่เพื่อนหรือครอบครัวของตน ในทางกลับกัน Detractor หรือ ผู้ไม่พึงพอใจ คือพนักงานผู้ที่นอกจากจะไม่ชอบและไม่แนะนำองค์กรแก่ผู้อื่นแล้ว ยังพูดถึงองค์กรอย่างเสียหายอีกด้วย
หมายเหตุ: การจัดกลุ่มตัวอย่างตามคะแนน eNPS สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้
- Promoter หรือ ผู้สนับสนุน คือพนักงานที่มีความพึงพอใจต่อองค์กรมาก ๆ ชื่นชอบและแนะนำแก่ผู้อื่นว่าองค์กรเป็นที่ทำงานที่ดี (ช่วงคะแนน 9 ถึง 10)
- Passive หรือ ผู้ที่รู้สึกเฉยๆ คือพนักงานที่พึงพอใจแต่ไม่ได้ผูกพันกับองค์กรนัก (ช่วงคะแนน 7 ถึง 8)
- Detractor หรือ ผู้ที่ไม่พอใจ คือพนักงานที่ไม่แนะนำองค์กรแก่ผู้อื่น ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่พึงพอใจของพนักงานต่อองค์กร (ช่วงคะแนนต่ำกว่า 7 ลงไป)
กลุ่มตัวอย่างของเราประกอบด้วยพนักงานทั้งหมด 953 คน จาก 40 บริษัท ผลการศึกษาพบว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ 63% หรือเกินกว่าครึ่งของพนักงานทั้งหมด รับรู้และเคยหรืออาจจะเคยประสบกับพฤติกรรมที่ Toxic ในที่ทำงาน จากกราฟจะเห็นว่า 16% ของพนักงานที่ตอบว่ารับรู้หรือเคยประสบและอาจจะเคยพบเจอพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงานเป็น Detractor ในขณะที่พนักงานที่ไม่เคยรับรู้หรือประสบกับพฤติกรรม Toxic มีเพียง 9% เท่านั้นที่เป็น Detractor นั่นคือ มีสัดส่วนที่น้อยกว่าเกือบครึ่งนึงของ Detractor ที่เคยหรืออาจจะเคยพบเจอพฤติกรรมดังกล่าว โดยคะแนน eNPS ของพนักงานที่เคยรับรู้หรือประสบกับพฤติกรรม Toxic เท่ากับ 35 คะแนน ซึ่งน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่เคยรับรู้หรือประสบกับพฤติกรรม Toxic อยู่ 14 คะแนน (อ่านเพิ่มเติมเรื่องการคำแนนคะแนน eNPS ได้ที่นี่) จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมที่ Toxic มีความสัมพันธ์กับกลุ่มที่เป็น Detractor หรือพนักงานที่ไม่พึงพอใจกับองค์กร
ลดพฤติกรรมที่ Toxic ลดจำนวนพนักงานที่รู้สึกไม่ดีกับองค์กร
เมื่อผู้นำปล่อยให้พฤติกรรม Toxic เติบโต ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้พนักงานรู้สึกไม่ดีและไม่ภักดีกับองค์กรและกลายเป็น Detractor ไดในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น Detractor ยังแพร่ขยายและติดต่อกันได้ คำพูดและการกระทำของเหล่า Detractor อาจทำให้พนักงานคนอื่น ๆ เข้าร่วมและหันหลังให้องค์กรได้เช่นเดียวกันกับพวกเขา ผู้นำองค์กรสามารถลดความรู้สึกไม่พึงพอใจของพนักงานลงได้ ด้วยการไม่มองข้ามและขัดขวางไม่ให้พฤติกรรม Toxic กลายเป็นเรื่องปกติในที่ทำงานของคุณ และเราเคยแนะนำ 3 กลยุทธ์เพื่อบรรเทาและกำจัดพฤติกรรมที่ Toxic ได้แก่ สรรหาและพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับคน (Soft skills) ในตัวพนักงาน สื่อสารค่านิยมขององค์กร (Core values) ซ้ำ ๆ และส่งเสริมความปลอดภัยทางใจ (Psychological safety) ในที่ทำงาน หากสนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ประสบการณ์ในที่ทำงานของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ Well-being และความพึงพอใจของพนักงานอาจสั่นคลอนได้หากพวกเขาพบเจอพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงาน ความสุขและความพึงพอใจของพนักงานสร้างชื่อเสียงที่ดีแก่องค์กร ทั้งยังเป็นเครื่องมือในการรักษาและดึงดูดคนเก่งและมีความสามารถได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้นพนักงานที่พึงพอใจในงานและองค์กร จะทุ่มเททำงานและสนับสนุนให้องค์กรประสบความสำเร็จอีกด้วย
Happily.ai ช่วยคุณได้นะ
วัฒนธรรมที่แข็งแกร่งช่วยบรรเทาพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงานของคุณได้ Happily.ai ช่วยองค์กรเสริมสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรงผ่านการชื่นชมยอมรับ (Recognition) การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และการกระตุ้นหรือขัดขวางพฤติกรรมอย่างทันท่วงที เราขอเชิญคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อเรียนรู้ว่าวิธีที่เรานำเทคโนโลยีมาใช้สร้างที่ทำงานที่น่าอยู่และยอดเยี่ยมได้ตั้งแต่วันนี้!
อ้างอิง:
[1] https://www.futurelearn.com/info/blog/what-is-job-satisfaction